ขอขอบคุณที่ไว้วางใจให้หมอคณินทร์ ดูแลการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม
คุณจะได้รับการผ่าตัดโดย หมอคณินทร์ และทีมสหสาขา ที่มีความชำนาญในการผ่าตัด และดูแลหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ข้อสะโพกเทียม
พวกเรามีความมุ่งมั่น และตั้งใจให้การรักษาในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ด้วยความราบรื่น และสะดวกสบาย
บทความในหน้านี้จะเป็นแนวทางในการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีความพร้อมก่อนผ่าตัดมากที่สุด
เตรียมพร้อมก่อนผ่าตัด
ผู้ป่วยหลายคนมักมีความกังวล แม้ว่าจะตัดสินใจผ่าตัดแล้วก็ตาม
การเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และมีความเข้าใจเกี่ยวกับการผ่าตัดที่ถูกต้องจะช่วยลดความกังวลของผู้ป่วยลงได้
เบอร์โทรศัพท์ที่จำเป็น
ติดต่อเรื่องนัดตรวจ
-
คลินิกพิเศษ Premium โทร 074-281-823
-
คลินิกนอกเวลาราชการ โทร 074-451-707 ติดต่อหลัง 13.00
-
คลินิกในเวลาราชการ โทร 074-451-752 ติดต่อหลัง 13.00
ติดต่อเรื่องการนอนโรงพยาบาล
-
ผ่าตัดระบบพิเศษ Premium โทร 074-451-883
-
ผ่าตัดในเวลาราชการ ผู้ป่วยชาย โทร 074-451-620
-
ผ่าตัดในเวลาราชการ ผู้ป่วยหญิง โทร 074-451-630
ท่าบริหารก่อนการผ่าตัด
การบริหารกล้ามเนื้อต้นขา
-
นั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง ให้ก้นและหลังพิงพนัก
-
เหยียดเข่าตรงให้สุด และค้างไว้ 10 วินาที
-
วางขาลง และบริหารเข่าอีกข้างสลับกัน
-
บริหารข้างละ 30 ครั้ง เช้า เที่ยง เย็น
กล้ามเนื้อมัดนี้มีความสำคัญในการเดินหากผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อมัดนี้แข็งแรง จะช่วยให้เดินได้ดี และเดินได้เร็วหลังผ่าตัด
อาหารที่ควรรับประทาน
การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ถูกสุขลักษณะ จะช่วยให้กระบวนการหายของแผลผ่าตัดดีขึ้น
-
ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
-
รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เนื่องจากการใช้ยาแก้ปวดหลังผ่าตัดทำให้ท้องผูกได้ การรับประทานอาหาร เช่น ฝรั่ง มะละกอ แอปเปิ้ล แครอท มะเขือพวง ผักบุ้ง คะน้า จะช่วยลดอาการท้องผูกหลังผ่าตัดได้
-
รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล ไข่แดง ผักใบเขียว เนื่องจากธาตุเหล็ก เป็นแร่ธาตุสำคัญในการผลิตเม็ดเลือดแดง ทดแทนเลือดที่สูญเสียไปจากการผ่าตัด
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 48 ชม.ก่อนผ่าตั
-
ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 6 สัปดาห์
-
วันก่อนผ่าตัดควรทานอาหารที่ย่อยง่าย และมีคาร์โบไฮเดรตสูง
ยาที่ใช้ประจำ
ต้องแจ้งคุณหมอหากรับประทานยาต้านเกร็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด เนื่องจาต้องหยุดยาก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน
ชื่อยาที่ใช้บ่อยที่ต้องหยุดได้แก่
-
Aspirin (ยกเว้น aspirin 81 mg ไม่ต้องหยุด)
-
Warfarin
-
Clopidogrel
-
Cilostazol (Pletal)
ยาประจำตัวอื่นให้รับประทานตามปกติ ยกเว้นเช้าวันผ่าตัดไม่ต้องรับประทานยาประจำ ยกเว้นวิสัญญีแพทย์เป็นผู้สั่งยาให้
การเตรียมบ้าน และผู้ดูแล
-
ในช่วงเดือนแรกหลังผ่าตัดการขึ้นลงบันไดอาจจะทำได้ลำบาก เนื่องจากยังต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดินร่วมด้วย การจัดห้องนอนให้อยู่ชั้นล่าง แต่หากจำเป็นต้องอยู่ชั้นบน อาจจะต้องจัดให้อยู่ในชั้นที่มีห้องน้ำ เพื่อจะได้ไม่ต้องขึ้นลงบันไดบ่อย
-
ควรจัดบ้านให้เรียบร้อย ทางเดินที่กว้าง แสงสว่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการหกล้ม
-
ผู้ป่วยสามารถเดินภายในบ้าน หลังกลับจากรพ. สามารถเดินเข้าห้องน้ำ อุ่นอาหาร เพื่อช่วยเหลือตัวเองได้ อาจต้องการผู้ดูแลเพื่อหาอาหาร หรือปรุงอาหารไว้ก่อน ผู้ป่วยจะเดินได้ดีขึ้น ไกลขึ้นเรื่อยๆ และสามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า ในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด
วันก่อนผ่าตัด
การบริหารกล้ามเนื้อสะโพก
-
นอนตะแคงบนพื้นราบ
-
กางขาออก โดยให้ขาเหยียดตรง
-
นับค้างไว้ 10 วินาที
-
บริหารข้างละ 10 ครั้ง เช้า เที่ยง เย็น
กล้ามเนื้อมัดนี้มีความสำคัญในการเดินหากผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อมัดนี้แข็งแรง จะช่วยให้เดินได้ดี และเดินได้เร็วหลังผ่าตัด
-
วันที่ต้องมานอนโรงพยาบาล
-
ผู้ป่วยผ่าตัดในเวลา ต้องมานอนรพ.ก่อนวันผ่าตัด 1 วัน
-
ผู้ผ่วยผ่าตัดพิเศษ premium สามารถเลือกได้ว่าจะนอนก่อนผ่าตัด 1 วัน หรือเช้าวันผ่าตัด (ให้มานอน รพ. 7.00 ของวันผ่าตัด)
-
-
งดน้ำงดอาหาร อย่างน้อย 8 ชม
-
สำหรับผู้ป่วยผ่าตัดในเวลา งดน้ำ และงดอาหารหลังเที่ยงคืน
-
สำหรับผู้ป่วยผ่าตัดพิเศษ premium ที่มีคิวผ่าตัดช่วงเช้า งดน้ำ และงดอาหารหลังเที่ยงคืน
-
สำหรับผู้ป่วยผ่าตัดพิเศษ Premium ที่มีคิวผ่าตัดช่วงบ่าย งดน้ำ และงดอาหารหลัง 5.00 น. ของวันผ่าตัด
-
-
นำยาที่รับประทานประจำทั้งหมดมา ในวันที่นอน โรงพยาบาล
-
ห้องพิเศษ
-
ผู้ผ่วยผ่าตัดพิเศษ premium จะได้นอนห้องพิเศษทุกรายโดยไม่ต้องติดต่อศูนย์จองห้องพิเศษ
-
ผู้ป่วยผ่าตัดในเวลา สามารถจองห้องพิเศษ โดยติดต่อศูนย์จองห้องพิเศษก่อนวันผ่าตัด แต่จะได้ห้องพิเศษหรือไม่ ขึ้นกับว่ามีห้องพิเศษว่างหรือไม่ในวันที่นอน โรงพยาบาล
-
วันผ่าตัด
-
ช่วงเช้า 6.00 - 7.00 น.
-
พยาบาลจะเจาะเลือด และให้สารนำ้ทางเส้นเลือด เพื่อลดความอ่อนเพลียขณะอดอาหาร รอการผ่าตัด
-
-
การผ่าตัด
-
ใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัดโดยรวมประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่ระยะเวลาในการผ่าตัดจริงประมาณ 2-2.5 ชั่วโมง
-
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะได้รับการระงับความปวด ด้วยการบล็อกหลัง เนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัยกับผู้ป่วยมากที่สุด
-
ผู้ป่วยจะได้รับการใส่สายสวนปัสสาวะในห้องผ่าตัด หลังจากวิสัญญีแพทย์ทำการระงับความปวดเรียบร้อย จะได้ไม่เจ็บขณะใส่สายสวนปัสสาวะ
-
หมอคณินทร์ ผ่าตัดโดยใช้เทคนิคที่ไม่ต้องใส่สายระบายเลือด เพื่อให้ผู้ป่วยมีความสะดวกในการบริหาร และเดินหลังผ่าตัด และเย็บแผลด้วยไหมละลายทั้งหมด จึงไม่ต้องตัดไหม
-
-
หลังผ่าตัด
-
ผู้ป่วยจะถูกส่งไปถ่ายภาพ x-ray เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยหลังผ่าต้ด
-
ผู้ป่วยจะได้รับการฉีดยาระงับปวดทุก 3 ชั่วโมง หากผู้ป่วยยังรู้สึกปวดสามารถแจ้งพยาบาลเพื่อขอเพิ่มยาแก้ปวดได้ทันที
-
หลังผ่าตัดให้ผู้ป่วยยกขาข้างที่ผ่าตัดให้สูงกว่าระดับหน้าอก และประคบเย็นบริเวณที่ผ่าตัด
-
ผู้ป่วยสามารถ เหยียดงอ ข้อเข่าได้ทันทีหลังผ่าตัด และสามารถลุกนั่งข้างเตียงเพื่อรับประทานอาหารเย็นได้
-
แนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยดูจากสีของปัสสาวะที่ออกมาทางสายสวนปัสสาวะ ถ้าปัสสาวะสีเหลืองจางแสดงว่าดื่มน้ำเพียงพอ ถ้าปัสสาวะสีเข้มแสดงว่าต้องดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้น
-
หลังผ่าตัดวันที่ 1
-
ช่วงเช้า 6.00 - 7.00 น.
-
พยาบาลจะเอาสายน้ำเกลือ และสายสวนปัสสาวะออกเพื่อให้ผู้ป่วยลุกนั่ง หัดเดินได้สะดวกมากขึ้น
-
-
ช่วงสาย
-
คุณหมอจะให้นั่งข้างเตียง เพื่อเริ่มฝึกบริหารข้อเข่า และสอนหัดเดินด้วย walker ในกรณีที่ผู้ป่วยพร้อมเดินในช่วงเช้า
-
-
ช่วงบ่าย
-
ผู้ป่วยจะไปฝึกเดิน และรับ walker ที่แผนกกายภาพบำบัด
-
-
ข้อควรปฏิบัติ
-
ผู้ป่วยควรฝึกเหยียดเข่าให้ตรง งอเข่าให้ได้มากที่สุด ฝึกปฏิบัติชั่วโมงละ 1 เซ็ต ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที แล้วนอนพักยกขาสูง เพื่อป้องกันขาบวม
-
การฝึกเหยียดงอเข่าช่วงแรกอาจจะมีเจ็บที่แผลผ่าตัด หลังจากฝึกบ่อยๆ ความเจ็บปวดจะลดลงตามลำดับ
-
ฝึกเดินเข้าห้องน้ำด้วย walker และมีญาติอยู่ใกล้ๆ ทุกครั้ง ไม่ควรเดินเองโดยไม่มีใครดูแล หากญาติไม่อยู่ต้องแจ้งพยาบาลเพื่อช่วยดูแลครับ เพื่อป้องกันการหกล้ม
-
เวลาพักอยากให้ผู้ป่วยนอนพัก มากกว่าการนั่งห้อยขา เพื่อป้องกันขาบวม
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
-
หลังผ่าตัดวันที่ 2
-
วันนี้จะเป็นวันแรกที่ ผู้ป่วยจะไม่ได้รับยาแก้ปวดแบบฉีดแล้ว
-
หากผู้ป่วยไม่ปวดแผลมาก เหยียดเข่าได้ตรง งอเข่าได้ดี เดินได้ดี สามารถกลับบ้านช่วงเย็นได้
-
คุณหมอจะเปิดแผลเพื่อทำแผล ก่อนกลับบ้าน และเปลี่ยนเป็นวัสดุปิดแผลที่กันน้ำ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำได้
-
การดูแลจะเหมือนกับวันหลังผ่าตัดวันที่ 1
-
-
ข้อควรปฏิบัติ
-
ผู้ป่วยควรฝึกเหยียดเข่าให้ตรง งอเข่าให้ได้มากที่สุด ฝึกปฏิบัติชั่วโมงละ 1 เซ็ต ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที แล้วนอนพักยกขาสูง เพื่อป้องกันขาบวม
-
การฝึกเหยียดงอเข่าช่วงแรกอาจจะมีเจ็บที่แผลผ่าตัด หลังจากฝึกบ่อยๆ ความเจ็บปวดจะลดลงตามลำดับ
-
ฝึกเดินเข้าห้องน้ำด้วย walker และมีญาติอยู่ใกล้ๆ ทุกครั้ง ไม่ควรเดินเองโดยไม่มีใครดูแล หากญาติไม่อยู่ต้องแจ้งพยาบาลเพื่อช่วยดูแลครับ เพื่อป้องกันการหกล้ม
-
เวลาพักอยากให้ผู้ป่วยนอนพัก มากกว่าการนั่งห้อยขา เพื่อป้องกันขาบวม
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
-
วันกลับบ้าน
-
90% ของผู้ป่วยจะกลับบ้านวันที่ 3 หลังผ่าตัด และประมาณ 10% จะกลับบ้านวันที่ 2 หลังผ่าตัด
-
ก่อนกลับบ้านผู้ป่วยจะต้องงอเข่าได้อย่างน้อย 90 องศา เดินเข้าห้องน้ำกับ walker ได้ด้วยตนเอง และไม่ต้องใช้ยาแก้ปวดชนิดฉีด
-
ผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแผล จะได้รับการเปลี่ยนแผลในวันนี้ก่อนกลับบ้าน ผู้ป่วยบางคนมีข้อสงสัยว่าทำไมถึงไม่ทำแผลทุกวัน ในกรณีที่แผลแห้งดี แนวทางการดูแลแผลของหมอคณินทร์ คือ ทำแผลให้น้อยที่สุดเพื่อลดการปนเปื้อน นำเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่แผล แต่ในกรณีที่แผลมีเลือดซึมก็จะทำการเปลี่ยนแผลบ่อยขึ้นครับ
-
หลังจากเปลี่ยนแผลด้วยวัสดุกันนั้ำแล้ว ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำได้ ซับแผ่นปิดแผลให้แห้ง ผู้ป่วยจะได้รับวัสดุปิดแผลสำรองกลับบ้าน 1 แผ่น
-
ผู้ป่วยจะได้รับบัตรนัดเพื่อมาตรวจดูแผล การขยับของข้อเข่า 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
-
-
ข้อควรปฏิบัติ
-
ผู้ป่วยควรฝึกเหยียดเข่าให้ตรง งอเข่าให้ได้มากที่สุด ฝึกปฏิบัติชั่วโมงละ 1 เซ็ต ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที แล้วนอนพักยกขาสูง เพื่อป้องกันขาบวม
-
ไม่ควรนั่งห้อยขาเป็นเวลานาน
-
ประคบเย็นที่เข่าบ่อยๆ
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
-