ข้อเสื่อมเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมสภาพ ของกระดูกอ่อนบริเวณผิวข้อ ซึ่งเกิดจากการใช้งาน อายุที่มากขึ้น นำ้หนักตัวมากขึ้น เคยได้รับอุบัติเหตุ หรือเป็นโรคข้ออักเสบมาก่อน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกระดูกอ่อน และมีการบางตัวของกระดูกอ่อน
กระดูกอ่อน มีส่วนประกอบสำคัญคือ เซลล์กระดูกอ่อน คอลลาเจน (Collagen type II) โปรตีโอไกลแคน (Proteoglycans) ทำหน้าที่สำคัญในการรับน้ำหนัก ลดแรงเสียดทาน ข้อต่อที่มีกระดูกอ่อนที่ดีทำให้การเหยียดงอ ข้อต่อ มีความลื่นไหล นุ่มนวล ในทางตรงกันข้ามเมื่อกระดูกอ่อนมีความเสื่อม มีการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบ และการบางตัวลงของกระดูกอ่อน ทำให้ข้อต่อรับน้ำหนักได้ไม่เหมือนเดิม เกิดความฝืด เหยียดงอลำบาก และสร้างความเจ็บปวดเมื่อใช้งาน
จากภาพ X-ray จะเห็นช่อว่างระหว่างกระดูกสองชิ้น นั่นคือความหนาของกระดูกอ่อนที่เหลือยู่ จะเห็นว่าช่องว่างดังกล่าวจะแคบลงเรื่อย เมื่อระยะของโรคเป็นรุนแรงมากขึ้น
เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันยังไม่สามารถผลิตยากิน หรือยาฉีดที่สามารถกระตุ้นให้กระดูกอ่อนซ่อมแซมความสึกหรอที่เกิดขึ้นได้ เมื่อข้อเสื่อมถึงระยะรุนแรง การผ่าตัดเปลี่นข้อเทียมจึงเป็นวิธีการรักษาที่ให้ผลในการลดความเจ็บปวดได้ดีที่สุด
เซลล์หลายๆชนิดในร่างกายสามารถซ่อนแซม หรือสร้างใหม่ทดแทนได้ เช่น ผิวหนัง เซลล์กระดูก ทำให้แผล หรือกระดูกหักสามารถหายได้ แต่โชคไม่เข้าข้างเราเสมอไป เนื่องจากเซลล์กระดูกอ่อน มีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง และสร้างใหม่ได้น้อยมาก เมื่อเกิดความเสื่อมแล้วจึงทำได้เพียงการชะลอให้กระดูกอ่อนไม่เสื่อม หรือสึกหรอมากกว่าเดิม
ที่ผ่านมามีการพัฒนายา หลายชนิดเช่น glucosamine sulfate, diacerein รวมถึงยาฉีด Hyaluronic acid เพื่อเพิ่มความสามารถในการซ่อมแซมกระดูกอ่อน แต่การศึกษาในปัจจุบันยากลุ่มนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมกระดูกอ่อนได้จริง
เนื่องจากไม่มีวิธีการรักษาที่สามารถกระตุ้นการซ่อมแซมผิวกระดูกอ่อนได้จริง จากข้อจำกัดของเทคโนโลยีทางการแพทย์ การรักษาข้อเสื่อมที่เป็นรุนแรงจึงต้องอาศัยการผ่าตัดใส่ข้อเทียมเพื่อทดแทนกระดูกอ่อนที่เสื่อมไปนั่นเอง
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมีความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมก่อนตัดสินใจ
Comentários